“หากเราไม่มีเงินทุนเพิ่มเติมภายในสิ้นเดือนพฤศจิกายนนี้ เราจะต้องออกมาตรการที่น่าผิดหวังอย่างยิ่ง ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อเงินเดือนของเจ้าหน้าที่ UNRWA แนวหน้าของเราจำนวน 28,000 คน ท่ามกลางภาวะฉุกเฉินด้านสุขภาพทั่วโลก”จำนวนผู้ลี้ภัยที่ติดเชื้อCOVID-19เพิ่มขึ้นจากน้อยกว่า 200 คนในเดือนกรกฎาคมเป็นเกือบ 17,000 คนในสัปดาห์นี้ เธอกล่าว สถานการณ์ส่วนหนึ่งสะท้อนให้เห็นถึงสถานการณ์ในประเทศที่ผู้ลี้ภัยอาศัยอยู่ และจำนวนผู้ลี้ภัยก็เพิ่มขึ้นทั่วภูมิภาค
ชะลอการแพร่กระจายUNRWA ได้วางมาตรการเพื่อชะลอการแพร่ระบาดของไวรัส
รวมถึงการให้คำปรึกษาทางการแพทย์ทางโทรศัพท์ การให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเพื่อหลีกเลี่ยงความแออัดยัดเยียดที่ศูนย์กระจายสินค้า และผสมผสานโรงเรียนเข้ากับการเรียนรู้ทางไกล แต่การเคารพต่อมาตรการล็อกดาวน์ได้เพิ่มช่องทางในการกดดันให้ผู้คนออกจากบ้านเพื่อหาค่าจ้างรายวัน
“แน่นอนว่าสิ่งนี้ได้เชื้อเชิญให้ไวรัสเข้าสู่ชุมชนผู้ลี้ภัย” นางอัลริไฟกล่าวUNRWA ก่อตั้งขึ้นหลังความขัดแย้งระหว่างอาหรับ-อิสราเอลในปี 2491 และมีการดำเนินงานในฉนวนกาซาและเวสต์แบงก์ รวมถึงในเลบานอน จอร์แดน และซีเรีย โดยได้รับเงินสนับสนุนเกือบทั้งหมดจากประเทศสมาชิกสหประชาชาติโดยปกติหน่วยงานต้องการเงิน 50 ล้านดอลลาร์ต่อเดือนเพื่อให้ครอบคลุมเงินเดือนพนักงานสำหรับบริการ 5.7 ล้านคนที่ต้องการ และตอนนี้ต้องการ 30 ล้านดอลลาร์ในอีกสองสัปดาห์ข้างหน้าเพื่อให้แน่ใจว่าจะสามารถจ่ายเงินเดือนพนักงานต่อไปได้
มิฉะนั้นจะต้องจ่ายค่าจ้างบางส่วนและเลื่อนออกไป ส่วนที่เหลือจนกว่าจะมีเงินเพียงพอ นางอัลริไฟกล่าว
เงินทุนไม่ตรงกันเธอเสริมว่า UNRWA ซึ่งมีส่วนสำคัญในการทำให้ภูมิภาคนี้มีเสถียรภาพ จะต้องเสียหายหากไม่สามารถดำเนินกิจการศูนย์สุขภาพและโรงเรียนสำหรับเด็กกว่า 500,000 คนต่อไปได้ แต่ในปีนี้กลับไม่ได้รับเงินทุนเพียงพอจากผู้บริจาค แม้จะมีการสนับสนุนทางการเมืองอย่างท่วมท้นก็ตาม ในการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ
เขาชี้ให้เห็นว่าในขณะที่ไฟฟ้าใช้เวลา 50 ปีในการเข้าถึงผู้ใช้ 50 ล้านคนแรกทั่วโลก แต่เทคโนโลยีดิจิทัลใช้เวลาถึงครึ่งหนึ่งในการเข้าถึง 3 พันล้านคนทั่วโลก และในขณะที่สหประชาชาติมีส่วนร่วมในโครงการริเริ่มที่สำคัญหลายโครงการ นายกูแตร์เรสยืนยันว่า “ยังไม่เพียงพอ และไม่มีการประสานงานกันความคิดและการกระทำของเราไม่ทันกับความท้าทาย” เขากล่าวยืนยัน
เขากล่าวว่าคณะกรรมการระดับสูงว่าด้วยความร่วมมือด้านดิจิทัล – มุ่งเสริมสร้างการประสานงานระหว่างรัฐบาล ภาคเอกชน และองค์กรระหว่างประเทศ – เน้นย้ำถึงความจำเป็นเหนือสิ่งอื่นใด เพื่อปิดช่องว่างทางดิจิทัล ตระหนักถึงสิทธิมนุษยชนในบริบทดิจิทัล สร้างความไว้เนื้อเชื่อใจในโลกไซเบอร์ และความปลอดภัย และยอมรับในสถาปัตยกรรมสากลใหม่
